URL: www.phukettoday.com/news

ห่วงหอยสังข์แตรสูญพันธ์ เร่งวิจัยเพาะปล่อยทะเล
สถาบันวิจัยฯ ห่วงหอยสังข์แตรจะสูญพันธุ์ ขณะที่พบแหล่งใหญ่ที่เกาะ ราชาเร่งวิจัยและขยายพันธุ์ด่วนรวมเจ้าหน้าที่ล่องเรือสำรวจ และหาพันธุ์ ปล่อยสู่ทะเล
สถาบันวิจัยและประมงจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับศูนย์ เพาะเลี้ยงสัตว์ชายฝั่งทะเลและกรมประมงได้จัด โครงการเพาะเลี้ยง และปล่อยกลับสู่ธรรมชาติของ หอยสังข์แตรขึ้น โดยโครงการนี้เริ่มดำเนินการมา เมื่อ 10 ปีก่อน ในขณะนั้นการหาพ่อพันธุ์และ แม่พันธุ์ของหอยสังข์แตรเป็นไปด้วยความลำบาก มาก แต่มาถึงปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่ายได้ พยายามหาพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ได้ถึง 2 คู่ ซึ่งได้ จากชาวประมงกลุ่มหนึ่ง จึงทำให้การเพาะเลี้ยง และได้ตัวอ่อนมาประมาณ 1 ล้านตัว ในระยะเวลา 2 ปี จึงนำตัวอ่อนดังกล่าวที่มีความแข็งแรง สามารถที่จะเกาะรับพื้นทรายและโขดหินใต้ได้ โดยไม่โดนกระแสน้ำพัดพาได้
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ นางจินตนา นักระนาด นักวิชาการศูนย์เพาะเลี้ยงประมงชายฝั่งของจังหวัด ภูเก็ต เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว "ข่าวเศรษฐกิจธุรกิจ" ว่าเราได้เริ่มโครงการนี้มานานถึง 12 ปีแล้วได้ ทำการศึกษาค้นคว้าพฤติกรรม และที่อยู่อาศัยของ หอยสังข์แต่มาโดยตลอดหอยสังข์แตรเป็นสัตว์ ที่ได้รับอนุรักษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในปัจจุบัน หอยดังกล่าวแทบจะน้อยมากในท้องทะเลไทย
นางจินตนา กล่าวว่า ประโยชน์ของหอยสังข์ แตรเป็นหอยที่กินปลาดาวหนามเป็นอาหาร ซึ่ง ปัจจุบันต้องยอมรับมีชาวประมงนิยมจับหอยสังข์ แตรมาขายส่งผลการขยายพันธุ์ของหอยลดลง ขณะ เดียวกันเวลานี้ตลาดการซื้อขายเปลือกหอยเป็นที่ นิยมค่อนข้างมากด้วย อย่างไรก็ดีการปล่อยตัวอ่อน ของหอยสังข์แตรค่อนข้างจะมีความยุ่งยากมาก ต้อง ใส่ถุง และดำน้ำมาตรวจสอบอีกครั้งคิดว่าใช้เวลา ประมาณ 2 เดือน ก็จะทราบผลว่าจะรอดชีวิต ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ และจะนำตัวอ่อนไปปล่อย ตามแนวปะการังต่างๆในท้องทะเลไทยต่อไป
ทางด้านนายสุพจน์ จันทราภรณ์ศิลป์ เจ้าหน้าที่ 7 ของสถาบันวิจัยวิทยาและประมง ทะเลจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากทำการปล่อยหอย สังข์แตรที่บริเวณเกาะราชาใหญ่แล้วเสร็จเปิดเผย ว่าที่เกาะราชาใหญ่เดิมเป็นที่อยู่ของหอยสังข์แตร มาก่อน ในการทดลองครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการ ทดลองครั้งแรกของโลกก็ว่าได้ถ้าเกิดผลสำเร็จขณะ ที่หลายประเทศทดลองมาแล้วแต่ไม่ประสบความ สำเร็จหากเราทำได้ถือว่าโชคดีมาก อย่างไรก็ตาม บริเวณเกาะราชาใหญ่เป็นที่อยู่ของหอยสังข์แตร ซึ่งจุดดังกล่าวนี้คงจะต้องของร้องนักท่องเที่ยวที่จะ ดำน้ำอย่างไปรบกวน แต่ก็ไม่อันตรายเท่ากับผู้ไป หาเปลือกหอยเพราะกลุ่มนี้ต้องดำน้ำ และคุ้ยเขี่ย ทรายใต้น้ำ ซึ่งเป็นการทำลายตัวอ่อนโดยตรง จึงขอความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายด้วย

Home - เกี่ยวกับบริษัทฯ - ติดต่อกับบริษัทฯ - รายละเอียดโฆษณา - แผนผังเว็บไซต์ 73/2 ถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร..66-76 214496-8 แฟกซ์.66-76 215933 สงวนลิขสิทธิ์  1998, 1999,2000. บริษัท เอกซ์เพรสดาต้า จำกัด.